บริษัท แอคูชเน็ท กอล์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Titleist, Footjoy และ Pinnacle จัดให้มีการแถลงข่าวเปิดตัวลูกกอล์ฟประสิทธิภาพสูง Titleist NXT Tour, NXT Tour S, Velocity และ DT SoLo และเว็ดจ์ Vokey Spin Milled 5 รุ่นใหม่ โดยมี Mr. Rick Brown- Brand Manager of Titleist S.E Asia. Australia & New Zealand, Mr. Shaun Moulds, Titleist Golf Club Product Manager S.E Asia., Mr.Thomas Hutton Golf Ball Product Manager, SEA และคุณวัชฬะกาฬภักดี Titleist Product and Marketing Manager,Thailand ร่วมแถลงข่าว เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2557 ณ สนามฝึกซ้อมกอล์ฟโพธาลัย เลเชอร์ ปาร์ค

Mr. Rick Brown- Brand Manager of Titleist S.E Asia. Australia & New Zealand ได้กล่าวว่า “ในปีปลายปี 2013 ที่ผ่านมา นักกอล์ฟของไทเทิลลิสต์เราสามารถคว้าแชมป์ที่ 2013 จากลูกกอล์ฟและอุปกรณ์ของเราได้พอดี มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ และในช่วงเศรษฐกิจปลายปีที่ผ่านมา คู่แข่งของเราได้รุกทำการตลาดอย่างหนัก ทั้งลด แลก แจก แถม มาแข่งขันกับเรา แต่เราก็สามารถผ่านมันไปได้ด้วยความยอดเยี่ยมและคุณภาพของสินค้าเรา ที่ได้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ทุกๆสองปี เพื่อไม่ให้ลูกค้าเราต้องเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อยเกินไป และจุดเด่นของเราอีก หนึ่งอย่างคือ ทางเรามีการให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจของสินค้าเรา ให้กับผู้ขายเพื่อที่จะสามารถให้คำตอบกับลูกค้าของเราได้อย่างถูกต้อง และตรงกับความต้องการของลูกค้า”

 

ลูกกอล์ฟ NXT Tour, NXT Tour S, Velocity และ DT Solo รุ่นใหม่

ลูกกอล์ฟ Titleist ทุกรุ่น รวมถึงลูกกอล์ฟที่เป็นผู้นำตลาด อย่าง Pro V1 และ Pro V1x ถูกออกแบบและผลิตอย่างแม่นยำ โดยทีมวิจัยและพัฒนาลูกกอล์ฟของ Titleist และผลิตที่โรงงานที่มีมาตรฐานระดับโลกของ Titleist เพื่อประสิทธิภาพที่นักกอล์ฟต้องการ และเพิ่มทางเลือกในแบบที่นักกอล์ฟชื่นชอบ สำหรับลูกกอล์ฟรุ่นใหม่ในปี 2014 เรานำเสนอคุณภาพ และความสม่ำเสมอ ที่ทุกท่านคุ้นเคย และยอมรับ สำหรับลูกกอล์ฟทุกลูก ที่ประทับโลโก้“Titleist”

ลูกกอล์ฟNXT Tour และ NXT Tour S รุ่นใหม่ ที่นุ่มนวลยิ่งกว่า ถูกออกแบบให้ตีได้ไกล และให้ประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม ในช็อตลูกสั้น เพื่อทำคะแนน เป็นรองเพียงแค่Pro V1 และ Pro V1x ลูกกอล์ฟทั้งสองรุ่น มีการพัฒนาแกนในขึ้นใหม่ ให้มีค่าคอมเพรสชั่นต่ำลง และเปลือกนอกถูกออกแบบให้นุ่มนวลยิ่งขึ้น นักกอล์ฟจะสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความรู้สึกที่นุ่มนวลขึ้น

ทีมวิจัยและพัฒนาของ Titleist ออกแบบลูกกอล์ฟVelocity ปี 2014 ที่มีแกนในที่ถูกออกแบบเฉพาะ ที่มีชื่อว่า LSX และมีโครงสร้างแบบใหม่ ที่สร้างความเร็วลูกกอล์ฟได้สูงขึ้น เพื่อให้นักกอล์ฟตีได้ไกลขึ้น รอยบุ๋มเป็นแบบ 328 รอย ที่ถูกออกแบบให้ตีได้วิถีลูกพุ่งทะลุทะลวง มุมตกถึงพื้นราบยิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกวิ่งมากขึ้น ทั้งหมดนี้ ทำให้ Velocity ตีได้ไกลสุดๆ ในทุกช็อตที่ตีแบบเต็มวง

ลูกกอล์ฟ DT Solo รุ่นใหม่ถูกออกแบบขึ้นใหม่ ให้มีการผสมผสานระหว่างความนุ่มนวล และระยะทาง ได้อย่างลงตัวที่สุด เท่าที่DT เคยมีมา ด้วยการออกแบบโดยใช้แกนในที่มีค่าคอมเพรสชั่นต่ำมากๆ และเปลือกนอก ที่ทำจาก ionomerที่มีความนุ่มนวลสูง สำหรับรุ่นปี 2014 รอยบุ๋มของลูกกอล์ฟ DT ถูกปรับเปลี่ยนขึ้นใหม่ รอยบุ๋มเป็นแบบ 376รอย เพื่อให้นักกอล์ฟตีได้ไกลขึ้นด้วยไดรเวอร์ และเหล็กนอกจากนี้ ยังให้ความนุ่มนวลอย่างโดดเด่น และความสม่ำเสมอ ที่นักกอล์ฟชื่นชอบ และเชื่อมั่นเสมอมา สำหรับลูกกอล์ฟรุ่น DT

ลูกกอล์ฟทุกรุ่น วางตลาดวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้

    

เว็ดจ์ Vokey Spin Milled 5 รุ่นใหม่

ร่องแบบใหม่ TX3 สร้างสปินได้สูงสุด ให้ประสิทธิภาพในการควบคุมระยะและทิศทางได้ดียิ่งขึ้น พร้อมด้วยมุมกระดอน และการเจียรฐานที่หลากหลาย ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากทัวร์ เพื่อความหลากหลาย และประสิทธิภาพในการเล่นแต่งช็อตที่ดียิ่งขึ้น

เว็ดจ์ Titleist Vokey Spin Milled 5 รุ่นใหม่ สร้างสปินได้สูงขึ้น และเพิ่มทางเลือกให้เล่นได้หลากหลายยิ่งขึ้น ช่วยให้นักกอล์ฟตีลูกเข้าใกล้ธงได้ง่ายขึ้น และทำคะแนนต่ำลง

เว็ดจ์ Vokey Spin Milled 5 (SM5) เป็นเว็ดจ์ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด, อันเป็นผลมาจากสุดยอด นักออกแบบและผลิตเว็ดจ์ Bob Vokey ที่ทำการค้นคว้า และทำงานร่วมกับนักกอล์ฟชั้นนำของโลก มาอย่างยาวนาน ยกตัวอย่างเช่น Adam Scott, Steve Strickerและ Jason Dufner ตั้งแต่ปี 2004เว็ดจ์ Vokey Design เป็นเว็ดจ์ที่มีผู้เล่นใช้มากเป็นอันดับ 1 ใน PGA Tour และเป็นเว็ดจ์ที่มีนักกอล์ฟระดับแข่งขันทุกระดับ เลือกใช้มากที่สุด

ด้วยการออกแบบและการผลิตที่แม่นยำ ด้วยเทคโนโลยี Spin Milled ของเราเว็ดจ์ Vokey SM5 สร้างความได้เปรียบให้แก่นักกอล์ฟที่ใช้ ด้วยร่องแบบ TX3 ที่ลึกยิ่งขึ้น รูปทรงที่นักกอล์ฟในทัวร์ชื่นชอบ และมีมุมกระดอนและรูปแบบการเจียรที่ฐานด้านล่าง ที่หลากหลาย ให้นักกอล์ฟเลือกใช้

เว็ดจ์ Spin Milled 5 มีองศาหน้าไม้ตั้งแต่ 46? ถึง 62? (เพิ่มรุ่นละสององศา) และมีการเจียรที่ฐานด้านล่าง 6 รูปแบบ (L, T, S, M, F และ K) ซึ่งการเจียรแต่ละแบบ จะถูกใส่กับมุมกระดอนต่ำ กลาง และสูง อย่างเหมาะสมทั้งหมดนี้ ทำให้เว็ดจ์ SM5 มีตัวเลือกทั้งมุมกระดอน และการเจียรฐาน ที่มีประสิทธิภาพสูง รวมกันถึง 21 แบบ ที่มีองศาหน้าไม้/มุมกระดอน/การเจียรฐานที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะกับการสวิงทุกแบบ การเล่นแต่งช็อตแบบต่างๆ และสภาพสนาม

Vokey Spin Milled 5 วางตลาดพร้อมกันทั่วโลก และในประเทศไทยในวันที่ 14 มีนาคม 2557 โดยมีราคาตั้งที่ 5,950 บาท

   

พัตเตอร์ Scotty Cameron Select และ GoLo รุ่นใหม่

สุดยอดนักออกแบบและผลิตพัตเตอร์ Scotty Cameron ได้รับแรงบันดาลใจจากนักกอล์ฟชั้นนำของโลกและทำงานโดยใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อให้ พัตเตอร์ Select และ GoLoมีประสิทธิภาพสูง รูปทรงที่แม่นยำ และมีศิลปะ ให้เสียง และความรู้สึกที่นักกอล์ฟชื่นชอบ มีความสมดุลที่สุดยอด ทุกรูปทรงได้รับการพิสูจน์แล้วโดยนักกอล์ฟในทัวร์

พัตเตอร์ Scotty Cameron Select ผลิตโดยการกลึงอย่างแม่นยำ มีรูปทรงที่ลงตัว พร้อมระบบการถ่วงน้ำหนักที่ได้รับการยอมรับจากนักกอล์ฟในทัวร์ ว่าให้ความสมดุล และเสถียรภาพขณะพัตต์ที่สุดยอดพัตเตอร์ Select รุ่นล่าสุด จะประกอบด้วยพัตเตอร์รูปทรงเบลดที่ได้รับความนิยมจากนักกอล์ฟในทัวร์สูงสุดสามรุ่น(Newport, Newport 2 และNewport 2.5) และพัตเตอร์ทรงมัลเล็ทขนาดกลางสองรุ่น (Fastback และSquareback) ที่มีเส้นเล็งทรงเครื่องหมายบวก ช่วยให้เล็งได้อย่างแม่นยำสูงสุด

พัตเตอร์ Scotty Cameron GoLoเป็นพัตเตอร์ทรงมัลเล็ทที่โค้งมนและหรูหรา ด้วยความโค้งที่ออกแบบอย่าลงตัว และคอไม้ที่โค้งมน จะช่วยให้นักกอล์ฟไม่คิดถึงเทคนิคในการพัตต์ และสโตรกลูกได้โค้งอย่างเป็นธรรมชาติวางตลาดทั้งหมดสี่รุ่น (GoLo 3, GoLo 5, GoLoS5, GoLo 7) ที่มีขนาดต่างกัน รูปแบบคอต่างกัน เพื่อให้นักกอล์ฟเลือกใช้รูปทรงที่ชื่นชอบ และรูปแบบการวางน้ำหนักของหัว ที่เหมาะสมกับการพัตต์ที่สุด

หน้าไม้ของพัตเตอร์ Select และGoLoจะถูกกลึงลึก เพื่อความรู้สึกในแบบที่นักกอล์ฟในทัวร์ชื่นชอบ และเสียงปะทะลูกที่นุ่มนวลการใส่ก้อนน้ำหนัก Select ที่ด้านโคนและปลายของฐานด้านล่าง ทำให้น้ำหนักของหัวพัตเตอร์ลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบกับความยาวก้าน เพื่อความสมดุล และเสถียรภาพสูงสุด ขณะพัตต์ ทุกรุ่น มีการตกแต่งแบบใหม่ที่โดดเด่น ด้วยสีSilver Mist แบบใหม่ พร้อมตกแต่งด้วยจุดสีแดงในช่องที่กลึงแบบสองชั้นที่ตัวพัตต์ และที่ก้อนน้ำหนัก

พัตเตอร์ Select รุ่นใหม่ วางตลาดพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2557และพัตเตอร์GoLoรุ่นใหม่ วางตลาดวันที่ 18 เมษาคม พ.ศ.2557

Credit : http://www.golftimenews.com/scoop.php?scoop=1789

  

แพทริก รีด หนุ่มอเมริกันกลายเป็นนักกอล์ฟที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ชนะรายการของเวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิพ ด้วยชัยชนะ 1 สโตรค ในศึกคาดิแลค แชมเปี้ยนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 270 ล้านบาท ณ สนาม โดรัล เมืองโดรัล รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา

ในรอบสุดท้าย แพทริก รีด หวดเข้ามาอีเวนพาร์ 72 รวมสี่วันคว้าแชมป์ไปครองด้วยสกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 284 เฉือนะชนะ บับบ้า วัตสัน และ จามี โดนัลด์สัน เพียงสโตรคเดียว นับเป็นการคว้าแชม์พีจีเอทัวร์รายการที่สามในรอบ 8 เดือนหลังสุดของ รีด ด้วย

"ในสัปดาห์นี้ผมตีช็อตได้ดีมาก และที่โดดเด่นที่สุดคือการพัตต์ของผม" รีด กล่าว "เมื่อใดก็ตามที่คุณเดินทางมาแข่งขันด้วยความมั่นใจในเกมพัตต์ของตัวเอง เมื่อนั้นความกดดันต่างๆที่มีอยู่ก็จะค่อยๆหายไปเปลี่ยนเป็นความมั่นใจ"

"และการเล่นที่สนามแห่งนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเล่นด้วยความมั่นใจ และผมรู้สึกว่าในสัปดาห์นี้ผมสามารถทำได้อย่างดีทีเดียว"

แพทริก รีด นักกอล์ฟอเมริกันวัย 23 ปีออกสตาร์ทรอบสุดท้ายด้วยการนำ 2 สโตรค และหนีห่างเป็น 4 สโตรคอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะมาโดดไล่กดดันในช่วงท้ายจาก จามี โดนัลด์สัน

จามี โดนัลด์สัน นักกอล์ฟจากสหราชอาณาจักรมาได้เบอร์ดี้ที่หลุม 17 ทำให้เขาไล่หลัง รีด เหลือเพียงสโตรคเดียวเท่านั้น แต่ที่หลุมสุดท้าย โดนัลด์สัน ดันแอพโพรชตกบังเกอร์และพลาดเสียโบกี้ ส่งผลให้ รีด ตัดสินใจเล่นเลย์อัพและคว้าชัยชนะไปครองสำเร็จแม้จะออกโบกี้ที่หลุมสุดท้ายก็ตาม

จามี โดนัลด์สัน ที่จบสกอร์รอบสุดท้าย 4 อันเดอร์พาร์ 68 และ บับบ้า วัตสัน ที่จบสกอร์รอบสุดท้าย 2 อันเดอร์พาร์ 70 และจบอันดับสองร่วมกันที่สกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 285 และนอกจากนี้ไม่มีนักกอล์ฟคนไหนอีกแล้วที่ทำอันเดอร์สนามได้
ทางด้าน ไทเกอร์ วู้ดส์ นักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกที่กลับมามีลุ้นอีกครั้งหลังจบรอบสามด้วยการหวดเข้ามาอีก 6 อันเดอร์พาร์ 66 ทำให้เขาออกสตาร์ทรอบสุดท้ายตามหลังผู้นำเพียง 3 สโตรค ทว่าในรอบสุดท้ายตีเกินไปถึง 6 โอเวอร์พาร์ 78 ทำให้จบการแข่งขันในอันดับที่ยี่สิบห้าร่วม

ในรอบสุดท้ายของการแข่งขัน แพทริก รีด สวมเสื้อแดงและกางเกงสแล็กสีดำเหมือนอย่างที่ ไทเกอร์ วู้ดส์ ชอบใส่ในวันสุดท้าย และเขาก็แสดงให้เห็นว่าสามารถเล่นได้อย่างดุดันไม่แพ้กันในสนามที่ออกแบบใหม่อีกครั้งอย่าง บลู มอนสเตอร์ และแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เคยขาดความมั่นใจเมื่อสามารถจบการแข่งขันด้วยชัยชนะสำเร็จ

"ที่ผ่านมาผมฝึกซ้อมอย่างหนัก ผมชนะมาแล้วหลายรายการในสมัยเล่นเยาวชน และเมื่อสมัยที่เป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม มาตอนนี้ผมเป็นนักกอล์ฟอาชีพที่สามารถชนะพีจีเอทัวร์มาแล้ว 3 รายการ" แพทริก รีด กล่าวหลังได้รับเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน เดอะ มาสเตอร์ส เมเจอร์รายกาแรรกของปีที่ออกัสต้า ในเดือนเมษายนนี้แน่นอนแล้ว

"ผมยังไม่เห็นว่ามีใครทำได้เหมือนอย่างที่ ไทเกอร์ วู้ดส์ ทำไว้ แน่นอนว่าเขาเป็นนักกอล์ฟระดับตำนาน" รีด กล่าว "สำหรับผมแล้ว ผมเชื่อมั่นในตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ผมฝึกซ้อมมาอยากหนัก ผมจะต้องเป็นนักกอล์ฟหนึ่งในห้าของโลกให้ได้"

"การเดินทางมาแข่งขันที่สนามแห่งนี้และสามารถขึ้นนำการแข่งขันได้ตั้งแต่รอบแรกและรักษามันไว้ได้จนจบรอบสุดท้าย ผมรู้สึกว่าผมสามารถพัฒนาศักยภาพของตัวเองขึ้นมาได้อีกระดับแล้ว" รีด กล่าว

ชัยชนะรายการนี้ทำให้ แพทริก รีด กลายเป็นนักกอล์ฟที่อายุน้อยที่สุดแทนที่ ไทเกอร์ วู้ดส์ ที่ชนะรายการของเวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิพ โดยในรอบสุดท้ายเขาออกสตาร์ทด้วยเบอร์ดี้ตั้งแต่หลุมแรก แม้จะพลาดเสียโบกี้ที่หลุม 2 แต่ก็แก้ตัวด้วยสองเบอร์ดี้ซ้อนที่หลุม 3 และ 4

จากนั้น แพทริก รีด เซฟพาร์มาตลอด 9 พาร์ติดต่อกันก่อนมาพลาดออกโบกี้ที่หลุม 14 เมื่อเซฟพาร์ระยะประมาณ 5 ฟุตไม่ลง

ด้วยความกดดันที่มากขึ้นกับหลุมที่ลดเหลือน้อยลง แต่สกอร์ก็นำห่างเพียงสโตรคเดียวเท่านั้น ทว่า แพทริก รีด ก็สามารถรับมือกับความกดดันเหล่านั้นไว้ได้

รีด สามารถเซฟพาร์ที่หลุม 15, 16 และ 17 และขึ้นทีออฟหลุม 18 ด้วยการนำแบบสบายๆ 2 สโตรค ซึ่งเขาตัดสินใจที่จะเล่นเซฟและทำสำเร็จคว้าแชมป์คาดิแลค แชมเปี้ยนชิพ ไปครองแม้จะออกโบกี้ที่หลุมสุดท้ายก็ตาม

แพทริก รีด ฉลองชัยชนะของเขาบนกรีนหลุม 18 โดยมี จัสติน ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์เข้ามาร่วมแสดงความยินดีด้วย โดย จัสติน จะกลับมาเป็นแค็ดดี้ให้เขาอีกครั้งหลังคลอดลูกคนแรกแล้ว

สรุปผลคาดิแลค แชมเปี้ยนชิพ
         284 แพทริก รีด (สหรัฐฯ) 68 75 69 72
         285 บับบ้า วัตสัน (สหรัฐฯ) 73 72 72 68
         จามี โดนัลด์สัน (สหราชอาณาจักร) 74 70 71 70
         288 ดัสติน จอห์นสัน (สหรัฐฯ) 69 74 73 72
         ริชาร์ด สเติร์น (แอฟริกาใต้) 74 73 70 71
         289 บิล ฮาส (สหรัฐฯ) 73 76 69 71
         ธงชัย ใจดี (ไทย) 73 74 74 68
         สตีเฟ่น กัลลาเกอร์ (สหราชอาณาจักร) 75 75 70 69
         290 แกรม แม็คโดเวลล์ (สหราชอาณาจักร) 73 71 73 73
         ฮันเตอร์ เมแฮน (สหรัฐฯ) 69 74 71 76
         ชาร์ล ชวาร์ทเซล (แอฟริกาใต้) 70 76 76 68
         เจสัน ดัฟเนอร์ (สหรัฐฯ) 69 77 68 76

Credit : http://www.golftimenews.com/news.php?news=1773

บริษัท ซริซอน สปอร์ต ประเทศไทย จำกัด ผู้จัดจำหน่าย อุปกรณ์กอล์ฟแบรนด์ Srixon, XXIO, Cleveland สินค้าสัญชาติญี่ปุ่น หลังจากปี 2014 ประสบความสำเร็จ ไม้กอล์ฟ ในซีรียส์ XXIO 7 และ.Srixon ตระกูล Z525, Z725, Z925 รวมทั้งลูกกอล์ฟ Srixon Z-Star และ AD 333

ล่าสุดซริซอน สปอร์ต เตรียมเปิดตัว อุปกรณ์ใหม่ ปี 2014 โดยนำทัพด้วย XXIO 8 ที่มาแบบครบซีรียส์ซึ่งคุณมานาบุ อิชิกาว่า กรรมการผู้จัดการบริษัท ซริซอนสปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด ได้เผยกับ ฮ็อทกอล์ฟว่า“จากความสำเร็จ XXIO 7 ด้วยคอนเซ็ปต์ของ XXIO ที่เราพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้นักกอล์ฟทั่วไปสามารถตีได้ง่ายขึ้น และไกลขึ้น มาใน XXIO มาในXXIO 8 นี้ เขาคิดค้นเทคโนโลยี ตีไกล ขึ้นมา โดยดึงเรื่องของสวิง moi มาเป็นปัจจัยในการตีไกลมากขึ้น XXIO8 ตัวนี้ทำให้แรงต้านวงสวิงน้อยลงด้วยการประกอบของเราเอง โดยหลักการทั่วไปถ้ามี Moi เยอะ จะมีผลต่อความเร็วของวัตถุที่เคลื่อนที่ เราคิดค้นว่าทำอย่างไรให้วงสวิงเร็วขึ้น โดยใช้อุปกรณ์ช่วยลดแรงต้านด้วยแนวทางของ aero-dynamic เป็นเทคโนโลยีล้วนๆ ที่จะช่วยเพิ่มสปีด

เทคโนโลยีหลักของ XXIO ที่นำมาใช้คือเน้นหลักๆ มี 3 ข้อ คือ หน่งึ เพิ่มความเร็วหัวไม้ สอง เพิ่มสปีดบอล ซึ่งสองเรื่องนี้เราใช้เทคโนโลยี dual-speed technology และสามคือเน้นเรื่องของความง่ายในการตีหลักการเพิ่มความเร็วของหัวไม้ จะเริ่มจากก้านเป็นหลักก้านจะเป็นส่วนช่วยเพิ่มความเร็วของหัวไม้มากขึ้น โดยลด CG ก้าน เข้ามาใกล้ grip มากขึ้น หลักการเดียวกับลูกตุ้มนาฬิกา เวลา balance เหวี่ยงเข้าไปใกล้ลูกตุ้มจะเหวี่ยงได้ช้า แต่ถ้าเราเลื่อนเข้ามาได้ใกล้ มันจะเร็วขึ้นhead speed จะเพิ่มขึ้น ทั้งที่สวิงธรรมดาเหตุที่เขาเลื่อน balance ได้เป็นเพราะเขาใช้วัสดุนาโน อัลลอยด์ อยู่ที่ตรงพิตของก้านมันจะช่วยลดน้ำหนักของปลายให้เบาลงมีการเลื่อน CG ก้านขึ้นมา”

สำหรับความคาดหวังทางการตลาดในปี 2014 นี้คุณอิชิกาว่าเสริมต่อว่า “XXIO 8 เราเปิดตัวที่ญี่ปุ่นเมื่อ 8 ธันวาคม 2013 ซึ่งยอดขายที่โน้นค่อนข้างดี กว่า 30เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเราก็มั่นใจว่าถ้านักกอล์ฟไทยได้ลองแล้วจะชอบโดยเฉพาะที่ต้องการไม้ที่ ตีง่ายและได้ระยะเพิ่มขึ้นซึ่งปี 2014 นี้เราก็ยังคาดหวังว่าด้วยโปรดักส์ที่มีถึง 3 แบรนด์และเหมาะสมกับนักกอล์ฟหลายระดับฝีมือเราน่าจะโตขึ้นจากปีก่อนได้อีก 30% ซึ่งเราก็คงจะเน้นการทำเดโมเหมือนเช่นปีที่ผ่านมาโดยจะมีการเปิดตัวอย่าง เป็นทางการ XXIO 8 ในวันที่ 13 มกราคมนี้”

Credit : http://www.hotgolfclub.com/page.php?a=10&n=260&cno=2047

สิงห์ ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ ประจำปี 2014 แถลงข่าวเปิดฤดูกาลพร้อมมอบรางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมฤดูกาล 2013 ณ ห้องบุหงา โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน ในวันอังคารที่ 4 มีนาคม 2557

ในฤดูกาลที่ผ่านมา สิงห์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ได้รับความตอบรับจากนักกอล์ฟไทยและต่างชาติสมัครเข้าร่วมแข่งขันกันอย่างล้นหลาม ซึ่งเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า สิงห์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ได้รับการยอมรับจากนักกอล์ฟว่าเป็นทัวร์ที่มีมาตรฐานในเรื่องรูปแบบและการจัดการแข่งขันเทียบเท่าระดับนานาชาติ และในฤดูกาล 2014 สิงห์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ จะมีรายการแข่งขันทั้งหมด 10 รายการ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 30 ล้านบาท โดยเป็นรายการ โคแซงชั่น กับ อาเซียนพีจีเอทัวร์ 4 รายการ ทำให้นักกอล์ฟที่เข้าร่วมการแข่งขันสิงห์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ได้อันดับเงินรางวัลสะสมในอาเซียนพีจีเอทัวร์ เพื่อได้โอกาสในการแข่งขันทัวร์ระดับนานาชาติมากยิ่งขึ้น และในแต่ละรายการจะมีรอบคัดเลือกชิงเงินรางวัล 1 แสนบาท เพื่อเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟหน้าใหม่ได้เข้าร่วมแข่งขัน

การแข่งขันในปีนี้ยังคงกระจายการแข่งขันไปทั่วทุกภาคของประเทศเช่นเดิม เพื่อผลักดันให้นักกอล์ฟในภูมิภาคสามารถพัฒนาศักยภาพได้มากขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้จะมีการแพร่ภาพการแข่งขันและทัศนียภาพอันสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวในเมืองนั้น โดยการออกอากาศทางโทรทัศน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในประเทศทาง True Visions เอเชียทาง Star Sports และสหรัฐอเมริกาทาง One World Sport

นอกจากนั้นสิงห์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ยังมอบรางวัลให้นักกอล์ฟ ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2013 จำนวน 4 รางวัลดังต่อไปนี้

1. รางวัล "เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์" มอบให้นักกอล์ฟที่ทำผลงานในระดับนานาชาติได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2013 โดยผู้ที่คว้ารางวัลได้แก่ ประหยัด มากแสง โปรวัย 48 ปีจากหัวหิน จากผลงานสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์กอล์ฟชิงถ้วยพระราชทานได้ 3 รายการในฤดูกาลเดียว ซึ่งได้แก่รายการ ไทยแลนด์โอเพ่น, ควีนส์คัพ และ คิงส์คัพ

2. รางวัล "รุกกี้ ออฟ เดอะ เยียร์" มอบให้นักกอล์ฟดาวรุ่งที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น โดยผู้ที่คว้ารางวัลได้แก่ อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ โปรดาวรุ่งวัย 18 ปี จากผลงานคว้าแชมป์สิงห์ออลไทยแลนด์แชมเปี้ยนชิพ และทำเงินรางวัลสะสมได้เป็นที่ 3 ซึ่งเป็นเงินจำนวน 885,495 บาท

3. รางวัล "ออเดอร์ออฟเมอริท วินเนอร์" มอบให้นักกอล์ฟชายที่ทำอันดับเงินรางวัลสะสมสิงห์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ 2013 สูงสุด โดยผู้ที่คว้ารางวัลได้แก่ ประหยัด มากแสง ที่ทำเงินรางวัลสะสมจำนวน 1,272,200 บาท จากผลงานคว้าแชมป์รายการ สิงห์อีสานโอเพ่น และ สิงห์บางกอกโอเพ่น

4. รางวัล "ออเดอร์ออฟเมอริท วินเนอร์(เลดี้ส์)" มอบให้นักกอล์ฟหญิงที่ทำอันดับเงินรางวัลสะสมสิงห์ออลไทยกอล์ฟแลนด์ทัวร์ 2013 สูงสุด โดยผู้ที่คว้ารางวัลได้แก่ กานต์พนิตนันท์ เมืองคำสกุล โปรสาวดาวรุ่งวัย 15 ปีจากขอนแก่นที่ทำเงินรางวัลสะสมจำนวน 151,500 บาท จากผลงานคว้าแชมป์รายการ สิงห์อีสานโอเพ่น และ สิงห์บางกอกโอเพ่น

Credit : http://www.golftimenews.com/news.php?news=1778

ดีไซน์แปลกตา! 'อดัมส์' เผยโฉมเหล็ก 'XTD' โพรงกากบาท

อดัมส์ กอล์ฟ เปิดตัวชุดเหล็กใหม่ล่าสุด 'XTD irons' มาพร้อมดีไซน์ที่แปลกตาด้วยเทคโนโลยี "Cross-Cavity Technology" ที่ช่วยให้ลูกพุ่งแหวกอากาศได้เร็วยิ่งขึ้น และไม้มีความมั่นคงแม้ตีไม่โดนกลางหน้าไม้

อดัม กอล์ฟ แบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์กอล์ฟสัญชาติสหรัฐฯ เปิดตัวชุดเหล็ก XTD irons รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีโพรงด้านหลังตั้งแต่ส่วนบนของท้องไม้ไปจนถึงฐาน แล้วครอบด้วยโลหะรูปกากบาท เพื่อช่วยกระจายน้ำหนักไปด้านข้างหน้าไม้ ซึ่งเป็นสิ่งวิศวกรของอดัมส์ กอล์ฟให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ส่งผลให้บอลพุ่งแหวกอากาศได้เร็วยิ่งขึ้น และไม้มีความมั่นคงเมื่ออิมแพ็คลูก โดยเฉพาะเมื่อแม้ตีไม่โดนกลางหน้าไม้

นอก จากนี้ยังจะช่วยให้เกิด gear effect ซึ่งจะช่วยแก้ไขเรื่องสปินที่เกิดขึ้นจากการตีลูกไม่ตรงกลางหน้าไม้ โดยที่ gear effect จาก XTD irons จะให้ผลคล้ายกับสิ่งที่เราเห็นได้จากไม้แบบไฮบริด

นอกจากนี้ ชุดเหล็กรุ่นใหม่นี้ยังมี Cut-Thru Slot Technology ซึ่งอดัมส์กอล์ฟใช้ได้ผลมาแล้วในไม้รุ่นอื่นๆ โดยจะช่วยให้หน้าไม้มีความบางลง และยืดหยุ่นได้มากขึ้น ช่วยให้ลูกกอล์ฟมีสปีดบอลที่เร็วขึ้น ทำให้ได้ระยะไกลขึ้น เหมือนกับที่เทยเลอร์เมด บริษัทเครือเดียวกับอดัมส์กอล์ฟ ใส่ในโมเดลรุ่น Tour Preferred กับ JetSpeed ด้วยเช่นกัน

รวมถึงอดัมส์ กอล์ฟยังได้พัฒนาแนวช่วยเล็งในเหล็กรุ่นนี้ จากที่ด้านบนหัวไม้ถูกทำให้แคบลงกว่าโมเดลรุ่นก่อน และ Framed scorelines บวกด้วยเหล็กขัดเงาจะช่วยให้จัดวางไม้กอล์ฟได้อย่างถูกต้องยามยืนจรดลูก และหลังจากหน้าไม้กระทบลูก แรงดันลูกสูบที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจะช่วยลดการสั่นที่เกิดขึ้น ขณะที่แรงดันตรงจากหลังหน้าไม้จะช่วยสร้างเสียงที่ดังชัดเจน

สำหรับ ชุดเหล็ก XTD รุ่นใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อนักกอล์ฟทุกระดับฝีมือ แต่อดัมส์ กอล์ฟเน้นย้ำเป็นพิเศษว่านักกอล์ฟที่จะใช้ประโยชน์จากเหล็กรุ่นนี้ได้มากที่ สุดคือ นักกอล์ฟแฮนดิแคประดับกลาง โดยชุดเหล็ก XTD จะเริ่มวางจำหน่ายที่ต่างประเทศในวันที่ 28 มีนาคม 2557 ราคาขายอยู่ที่ 599.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 19,000 บาท ประกอบด้วยเหล็ก 7 ขนาด สวมก้าน  KBS Tour 90 steel แต่ถ้าเลือก Aldila graphite จะบวกเพิ่มอีก 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรืออีกประมาณ 3,200 บาท

Credit : http://www.hotgolfclub.com/page.php?a=10&n=260&cno=2142